ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันพุธ (29 มี.ค.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้นหลังนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตธนาคารทั่วโลก และหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ดีดตัวขึ้นหลังจากร่วงลงในช่วง 3 วันที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,564.27 จุด เพิ่มขึ้น 80.02 จุด หรือ +1.07% โดยปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันแล้ว
นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตธนาคารทั่วโลก หลังจากมีรายงานว่า บริษัทเฟิร์สต์ ซิติเซนส์ แบงก์แชร์ (First Citizens BancShares) มีความคืบหน้าในการเจรจาซื้อกิจการธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) จากบรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC)
หุ้นกลุ่มธนาคารของอังกฤษ พุ่งขึ้น 2.2% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นวันเดียวมากที่สุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ เนื่องจากหุ้นบาร์เคลยส์และหุ้นเอชเอสบีซี พุ่งขึ้น 3.5% และ 2.4% ตามลำดับ
หุ้นกลุ่มก่อสร้างบ้าน พุ่งขึ้น 3.3% และหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ พุ่งขึ้น 2.4% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นวันเดียวมากที่สุดในรอบ 2 เดือน
ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า การอนุมัติเงินกู้จำนองของธนาคารในอังกฤษเพิ่มขึ้นมากเกินคาดในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ตลาดบ้านอาจฟื้นตัวขึ้นแล้ว
แต่หุ้นเน็กซ์ ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกแฟชั่น ร่วง 4.3% หลังเปิดเผยว่า ต้นทุนที่สูงขึ้นสำหรับค่าแรงและพลังงานนั้นคาดว่าจะลดผลกำไรของบริษัทในปีนี้