ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ หลังราคาน้ำมันพุ่งขานรับการตัดสินใจลดการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ขณะที่นักลงทุนประเมินข้อมูลการผลิตสำคัญในภูมิภาค
ทั้งนี้ ดัชนีนิกเกอิเปิดภาคเช้าที่ระดับ 28,203.35 จุด เพิ่มขึ้น 161.87 จุด หรือ +0.57%, ดัชนีฮั่งเส็งเปิดภาคเช้าที่ระดับ 20,379.50 จุด ลดลง 20.61 จุด หรือ -0.10% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,277.34 จุด เพิ่มขึ้น 4.48 จุด หรือ +0.13%
สัญญาฟิวเจอร์น้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) และสัญญาฟิวเจอร์น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) พุ่งขึ้นสูงถึง 8% หลังโอเปกพลัสตกลงลดการผลิตน้ำมันดิบอีกกว่า 1 ล้านบาร์เรลวันจนถึงสิ้นปี 2566
โอเปกพลัส ประกาศปรับลดการผลิตน้ำมันลงอีก 1.16 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับตลาด ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าการตัดสินใจดังกล่าวของโอเปกพลัสจะส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง และอาจสร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาลสหรัฐที่ต้องการให้โอเปกพลัสเพิ่มการผลิตน้ำมัน
ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่า โอเปกพลัสจะคงนโยบายการผลิตน้ำมันด้วยการปรับลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วันไปจนถึงสิ้นปี 2566
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การตัดสินใจครั้งล่าสุดนี้ ส่งผลให้ปริมาณการปรับลดการผลิตน้ำมันโดยรวมของโอเปกพลัสอยู่ที่ 3.66 ล้านบาร์เรล/วัน หรือคิดเป็นสัดส่วน 3.7% ของความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลก โดยแถลงการณ์ของกลุ่มโอเปกพลัสระบุว่า การปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจครั้งนี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนพ.ค.ไปจนถึงสิ้นปี 2566
จีน อินเดีย และเกาหลีใต้เตรียมเปิดเผยข้อมูลการผลิตจากผลสำรวจภาคเอกชน ขณะที่ สิงคโปร์และฟิลิปปินส์จะเปิดเผยตัวเลขการผลิตอย่างเป็นทางการสำหรับเดือนมี.ค.