ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันอังคาร (4 เม.ย.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงจากความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันหลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอในสหรัฐ ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของยูโรโซนลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันในเดือนก.พ.
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 457.34 จุด ลดลง 0.38 จุด หรือ -0.08%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,344.96 จุด ลดลง 1.00 จุด หรือ -0.01%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,603.47 จุด เพิ่มขึ้น 22.55 จุด หรือ +0.14% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,634.52 จุด ลดลง 38.48 จุด หรือ -0.50%
หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซถ่วงตลาดหุ้นยุโรปลง โดยหุ้นบริษัทน้ำมันรายใหญ่ อาทิ เชลล์, บีพี, เทนาริส และโททาลเอเนอร์จี ร่วงลงราว 1-2.5% หลังราคาน้ำมันดิบลดช่วงบวกลง หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลกิจกรรมการผลิตร่วงลงในเดือนมี.ค.สู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี ขณะที่ยอดสั่งซื้อใหม่ดิ่งลง
ดัชนี PPI ของยูโรโซนลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน และลดลงมากกว่าคาดในเดือนก.พ. ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากราคาพลังงานที่ลดลง
ผลสำรวจของธนาคารกลางยุโรป (ECB) บ่งชี้ว่า ผู้บริโภคในยูโรโซนปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อในเดือนก.พ. และมีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการว่างงาน
แต่หุ้นลอรีอัล แบรนด์เครื่องสำอางจากฝรั่งเศส ปรับตัวขึ้น 1.2% สวนทางตลาด หลังทำข้อตกลงกับบริษัทนาทูรา แอนด์ โค (Natura & Co) ของบราซิล เพื่อซื้อเอสอป (Aesop) ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องสำอางหรูสัญชาติออสเตรเลียในเครือนาทูรา ในวงเงิน 2.53 พันล้านดอลลาร์
หุ้นเครดิต สวิส ปรับตัวขึ้น 0.9% ด้วย หลังประธานของเครดิต สวิส แสดงความเสียใจที่ทำให้ธนาคารเกือบล้มละลาย ขณะที่ผู้ถือหุ้นไม่พอใจอย่างมากกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับธนาคาร