ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพุธ (5 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของยูโรโซน หลังจากมีรายงานว่า ดัชนีภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนขยายตัวน้อยกว่าคาดในเดือนมี.ค.
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 456.59 จุด ลดลง 0.75 จุด หรือ -0.16%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,316.30 จุด ลดลง 28.66 จุด หรือ -0.39%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,520.17 จุด ลดลง 83.30 จุด หรือ -0.53% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,662.94 จุด เพิ่มขึ้น 28.42 จุด หรือ +0.37%
เอสแอนด์พี โกลบอลรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการขั้นสุดท้ายของยูโรโซนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 53.7 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน จากระดับ 52.0 ในเดือนก.พ. แต่ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าการประมาณการเบื้องต้นที่ระดับ 54.1 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์การณ์ไว้ที่ระดับ 54.0
ดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าและการบริการด้านอุตสาหกรรมร่วงลง 1.6% ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคดีดตัวขึ้น 1.4%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซน หลังจากนายกาเบรียล มาคลูฟ หนึ่งในสมาชิกสภาบริหารของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ออกมาสนับสนุนให้ ECB เดินหน้าคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไป
หุ้นโซเดโซ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการจัดเลี้ยงอาหารรายใหญ่ของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 9.1% หลังประกาศแผนแยกธุรกิจ และจะนำธุรกิจ Benefits & Rewards Services เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นฝรั่งเศสในปี 2567
หุ้นธนาคารยูบีเอสปรับตัวลง 0.6% แม้ยูบีเอสพยายามที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มผู้ถือหุ้นว่า การเข้าซื้อกิจการคู่แข่งอย่างธนาคารเครดิต สวิสนั้น เป็นสิ่งที่สามารถจัดการได้