ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพฤหัสบดี (6 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคาร, กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มเดินทาง ซึ่งช่วยบดบังความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐหลังเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 458.94 จุด เพิ่มขึ้น 2.35 จุด หรือ +0.51%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,324.75 จุด เพิ่มขึ้น 8.45 จุด หรือ +0.12%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,597.89 จุด เพิ่มขึ้น 77.72 จุด หรือ +0.50% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,741.56 จุด เพิ่มขึ้น 78.62 จุด หรือ +1.03%
ตลาดหุ้นยุโรปจะปิดทำการในวันศุกร์นี้และวันจันทร์หน้า เนื่องในวัน Good Friday และเทศกาลอีสเตอร์
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน โดยหุ้นกลุ่มธนาคารช่วยหนุนตลาดขึ้นมากที่สุด
ตลาดได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีปรับตัวขึ้นมากเกินคาดในเดือนก.พ.
บรรดานักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐที่จะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยทั่วโลก โดยคาดว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในการประชุมครั้งต่อไป
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ปรับตัวขึ้น 2.7%
หุ้นเชลล์ พุ่งขึ้น 2.3% หลังคาดว่าการผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จะเพิ่มขึ้นในไตรมาสแรกหลังประสบปัญหาที่โรงงานผลิตในออสเตรเลียเมื่อปีที่แล้ว
หุ้นเครดิต สวิส เพิ่มขึ้น 0.7% หลังรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์แนะนำให้ธนาคารยกเลิกหรือลดการจ่ายเงินโบนัสสำหรับผู้บริหารสูงสุด 3 ระดับ