ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันพฤหัสบดี (6 เม.ย.) โดยปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน ขณะที่การทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ และสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอังกฤษได้ช่วยบดบังความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,741.56 จุด เพิ่มขึ้น 78.62 จุด หรือ +1.03%
ดัชนี FTSE 100 แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์ และปิดตลาดสัปดาห์นี้บวกขึ้นราว 1.4% โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซ, กลุ่มการเงิน และกลุ่มเฮลท์แคร์
หุ้นเชลล์ พุ่งขึ้น 2.3% หลังคาดว่าการผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จะเพิ่มขึ้นในไตรมาสแรก
หุ้นกลุ่มธนาคาร ปรับตัวขึ้น 1.5% โดยหุ้นเอชเอสบีซี เพิ่มขึ้น 1.6%
หุ้น TUI ซึ่งเป็นบริษัทด้านการเดินทาง ทะยานขึ้น 12% หลังนายเซบาสเตียน อีเบล ซีอีโอเปิดเผยว่ากิจกรรมการเดินทางในฤดูร้อนของปีนี้คาดว่าจะกลับสู่ระดับก่อนเกิดโควิด-19 ระบาด
สัญญาณเงินเฟ้อที่ชะลอตัวและตลาดแรงงานอังกฤษที่ยังคงแข็งแกร่งได้เพิ่มความหวังว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้ในปีนี้ แต่ความวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอและความปั่นป่วนในภาคธนาคารถ่วงตลาดลงในช่วงที่ผ่านมา
หุ้นกลุ่มก่อสร้างบ้าน เพิ่มขึ้น 1.5% หลังบริษัทฮาลิแฟกซ์ ซึ่งเป็นบริษัทปล่อยกู้จำนองเปิดเผยว่า ราคาบ้านเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนมี.ค. โดยเพิ่มขึ้น 0.8% จากเดือนก.พ. และสวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าอาจลดลง 0.3%