ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (10 เม.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม ขณะที่นักลงทุนซึมซับตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นใกล้เคียงกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ พร้อมกับจับตาข้อมูลเงินเฟ้อและรายงานผลประกอบการของธนาคารสหรัฐในสัปดาห์นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,586.52 จุด เพิ่มขึ้น 101.23 จุด หรือ +0.30%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,109.11 จุด เพิ่มขึ้น 4.09 จุด หรือ +0.10% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,084.36 จุด ลดลง 3.60 จุด หรือ -0.03%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (7 เม.ย.) ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 236,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 238,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.5% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 3.6%
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมซึ่งมีความอ่อนไหวต่อเศรษฐกิจ พุ่งขึ้นนำตลาดเมื่อคืนนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นมุมมองของนักลงทุนที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะต้านทานผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยหุ้นแคทเธอร์ พิลลาร์ พุ่งขึ้น 3.04% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) เพิ่มขึ้น 0.81% หุ้นฮันนีเวลล์ บวก 0.64% หุ้น 3M ดีดขึ้น 1.18%
อย่างไรก็ดี ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ออกมาใกล้เคียงกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และอัตราการว่างงานที่ลดลงนั้น อาจทำให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 63.4% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. และให้น้ำหนักเพียง 36.6% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75-5.00%
หุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิปพุ่งขึ้น หลังมีรายงานว่าบริษัทซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ของเกาหลีใต้ มีแผนที่จะปรับลดการผลิตชิป โดยหุ้นไมครอน เทคโนโลยี ทะยานขึ้น 8.04% หุ้นอินวิเดีย พุ่งขึ้น 2% หุ้นควอลคอมม์ บวก 1.05% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (AMD) พุ่งขึ้น 3.26%
บริษัทจดทะเบียนของสหรัฐจะเริ่มรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ โดยธนาคารขนาดใหญ่ ได้แก่ เจพีมอร์แกน เชส, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โกจะรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 1/2566 ในวันศุกร์นี้ ขณะที่ข้อมูลจาก Refinitiv IBES ระบุว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทในดัชนี S&P 500 จะรายงานตัวเลขกำไรหดตัวลง 5.2% ในไตรมาส 1/2566 หลังจากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้น 1.4% ในไตรมาสดังกล่าว
นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนมี.ค.ในวันพุธที่ 12 เม.ย. รวมทั้งรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 21-22 มี.ค.ในวันดังกล่าว และจากนั้นจะมีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือนมี.ค.ในวันพฤหัสบดีที่ 13 เม.ย.