ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุด ขณะที่นักลงทุนผิดหวังต่อการเปิดเผยผลประกอบการของโกลด์แมน แซคส์
ณ เวลา 21.09 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,879.43 จุด ลบ 107.75 จุด หรือ 0.32%
ข้อมูลจาก Refinitiv IBES ระบุว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทในดัชนี S&P 500 จะรายงานตัวเลขกำไรลดลง 5.2% ในไตรมาส 1/2566 หลังจากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้น 1.4% ในไตรมาสดังกล่าว
ราคาหุ้นโกลด์แมน แซคส์ดิ่งลงเกือบ 3% หลังธนาคารมีกำไรและรายได้ที่ลดลงในไตรมาส 1/2566 โดยได้รับผลกระทบจากรายได้ที่ลดลงจากธุรกิจซื้อขายตราสารหนี้ และการทำข้อตกลงควบรวมกิจการ รวมทั้งการขาดทุนจำนวน 470 ล้านดอลลาร์จากการขายพอร์ทเงินกู้ "มาร์กัส"
นอกจากนี้ หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา และบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) ปรับตัวลงเช่นกัน แม้เปิดเผยผลประกอบการสูงกว่าคาด
นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจและถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 88.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. และให้น้ำหนักเพียง 11.3% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75-5.00%
ตลาดจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่จะมีการเปิดเผยในวันที่ 28 เม.ย. โดยดัชนีดังกล่าวเป็นข้อมูลเงินเฟ้อสำคัญตัวสุดท้ายก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 2-3 พ.ค.
ทั้งนี้ ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ โดยสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)