ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเล็กน้อยในวันพุธ (19 เม.ย.) โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวลงหลังเอเอสเอ็มแอล (ASML) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปของเนเธอร์แลนด์เตือนเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดชิป แต่การปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มประกันได้ช่วยลดช่วงติดลบในตลาด
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 468.13 จุด ลดลง 0.49 จุด หรือ -0.10%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,549.44 จุด เพิ่มขึ้น 15.81 จุด หรือ +0.21%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,895.20 จุด เพิ่มขึ้น 12.53 จุด หรือ +0.08% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,898.77 จุด ลดลง 10.67 จุด หรือ -0.13%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง แต่ยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายได้รับผลกระทบจากการแสดงความเห็นในเชิงคุมเข้มนโยบายการเงินของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งบ่งชี้ว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก
นายฟิลิป เลน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ECB สนับสนุนให้ ECB ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในการประชุมครั้งหน้า แต่ขนาดของการปรับขึ้นจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจ โดยโกลด์แมน แซคส์ปรับเพิ่มคาดการณ์ระดับอัตราดอกเบี้ยสูงสุดของ ECB สู่ 3.75% จากเดิมที่ 3.5%
ข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนลดลงในเดือนมี.ค. แต่ยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งเพิ่มความวิตกเกี่ยวกับแรงกดดันด้านราคาให้กับ ECB
หุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย อาทิ หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มเทคโนโลยี ปรับตัวลง 1.0% และ 1.9% ตามลำดับ
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ โดยหุ้น ASML Holding ร่วง 3.7% หลังบริษัทเตือนเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดชิป แม้บริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งก็ตาม
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มประกันปรับตัวขึ้น 1.1% ซึ่งช่วยลดช่วงติดลบในตลาด
หุ้นอลิอันซ์ บวก 1.3% หลังมีรายงานว่า บริษัทในเครือเตรียมขายหุ้นใน N26 ซึ่งเป็นธนาคารออนไลน์ของเยอรมนีเป็นมูลค่าราว 3 พันล้านดอลลาร์