ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันพุธ (19 เม.ย.) โดยถูกกดดันจากเงินเฟ้อของอังกฤษที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งจะสนับสนุนให้ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนพ.ค. ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,898.77 จุด ลดลง 10.67 จุด หรือ -0.13%
ข้อมูลบ่งชี้ว่าอังกฤษมีระดับเงินเฟ้อจากราคาผู้บริโภคสูงที่สุดในยุโรปตะวันตก โดยราคาอาหารและเครื่องดื่มพุ่งขึ้น 19.1% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2520
สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 10.1% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.8% จากระดับ 10.4% ในเดือนก.พ.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนมี.ค.
บรรดาเทรดเดอร์คาดว่า มีโอกาส 98.2% ที่ BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนพ.ค.
หุ้นกลุ่มพลังงาน ลดลง 0.9% ตามการปรับตัวลงของราคาน้ำมัน และถ่วงตลาดลงมากที่สุด
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่อุตสาหกรรมร่วงลง 1% โดยหุ้นแอนโทฟากัสตา และหุ้นเกล็นคอร์ ปรับตัวลง 1.4% และ 0.7% ตามลำดับ
หุ้นแอนโทฟากัสตา ปรับตัวลง หลังเปิดเผยว่าผลผลิตทองแดงในไตรมาสแรกลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่หุ้นเกล็นคอร์ลดลง หลังเตรียมเพิ่มข้อเสนอในการเทกโอเวอร์บริษัทเทค รีซอร์เซส
แต่หุ้นกลุ่มอาหาร, เครื่องดื่ม และยาสูบ ปรับตัวขึ้น 1.7% สวนทางตลาด หลังการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของอังกฤษซึ่งยังคงอยู่ในระดับสูง