ดาวโจนส์ร่วงกว่า 100 จุด กังวลเศรษฐกิจซบ,ผลประกอบการวูบ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 20, 2023 21:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุด ขณะที่นักลงทุนวิตกต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน

ณ เวลา 21.31 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,755.60 จุด ลบ 141.41 จุด หรือ 0.42%

หุ้นเทสลาดิ่งลงกว่า 7% หลังเปิดเผยผลประกอบการต่ำกว่าคาด และเป็นปัจจัยฉุดหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี

ข้อมูลจาก Refinitiv IBES ระบุว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทในดัชนี S&P 500 จะรายงานตัวเลขกำไรลดลง 5.2% ในไตรมาส 1/2566 หลังจากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้น 1.4% ในไตรมาสดังกล่าว

นักลงทุนมีความกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐ หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขต หรือ Beige Book เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐประสบภาวะชะงักงันในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยการจ้างงานชะลอตัวลง ขณะที่ธนาคารพาณิชย์เพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ หลังเกิดวิกฤตภาคธนาคารในช่วงที่ผ่านมา

รายงาน Beige Book ดังกล่าว แตกต่างจากฉบับที่มีการเปิดเผยในเดือนมี.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง แม้เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

ขณะเดียวกัน สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอในวันนี้ โดยเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก ปรับตัวลงสู่ระดับ -31.3 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -19.2 จากระดับ -23.2 ในเดือนมี.ค.

ดัชนียังคงปรับตัวต่ำกว่าระดับ 0 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติกอยู่ในภาวะหดตัว โดยหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8

นอกจากนี้ สหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองปรับตัวลงในเดือนมี.ค. ขณะที่ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว

ตลาดจับตาถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายในวันนี้และพรุ่งนี้ ขณะที่เฟดจะเริ่มเข้าสู่ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (Blackout Period) ในวันที่ 22 เม.ย. ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 2-3 พ.ค. ซึ่งเป็นไปตามกฎระเบียบของเฟด

ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่จะมีการเปิดเผยในวันที่ 28 เม.ย. โดยดัชนีดังกล่าวเป็นข้อมูลเงินเฟ้อสำคัญตัวสุดท้ายก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมนโยบายการเงินในเดือนพ.ค.

ทั้งนี้ ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ โดยสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ