ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันศุกร์ (21 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มปลอดภัย ขณะที่หุ้นเน็ตเวิร์ก อินเตอร์เนชันแนล โฮลดิงส์ ซึ่งให้บริการด้านการชำระเงินนั้น แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี หลังผู้จัดการความมั่งคั่งของแคนาดาเสนอเทกโอเวอร์ ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,914.13 จุด เพิ่มขึ้น 11.52 จุด หรือ +0.15%
ดัชนี FTSE 100 ปิดบวกเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน โดยปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบกว่า 1 ปี แม้ข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจชะงักงันและเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง
ตลาดปรับตัวขึ้นหลังเอสแอนด์พี โกลบอล/ซีไอพีเอสรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการขั้นต้นของอังกฤษอยู่ที่ 53.9 ในเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับ 52.2 ในเดือนมี.ค. ส่งสัญญาณการเติบโตแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว
ดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่า กิจกรรมภาคธุรกิจของอังกฤษอยู่ในภาวะขยายตัว และนับว่าเติบโตเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันแล้ว และสูงกว่าที่โพลล์ของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 52.5
หุ้นกลุ่มปลอดภัย อาทิ อาหาร, เครื่องดื่ม และยาสูบ รวมถึงเภสัชภัณฑ์ ต่างเพิ่มขึ้น 0.9%
หุ้นเน็ตเวิร์ก อินเตอร์เนชันแนล โฮลดิงส์ พุ่งขึ้น 10.3% หลังบรูคฟิลด์ แอสเซต แมเนจเมนต์ เสนอเทกโอเวอร์วงเงิน 2.13 พันล้านปอนด์ (2.65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
แต่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง 4.2% หนักสุดในรอบกว่า 1 เดือน เนื่องจากราคาแร่เหล็กและทองแดงปรับตัวลงจากความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ลดลง
หุ้นเกล็นคอร์ร่วงลง 2.2% หลังรายงานการผลิตลดลงในไตรมาสแรก