ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงในวันพุธ (26 เม.ย.) เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน และแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ ขณะที่การแข็งค่าของเงินปอนด์ถ่วงหุ้นกลุ่มเภสัชภัณฑ์ร่วงลง
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,852.64 จุด ลดลง 38.49 จุด หรือ -0.49%
หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ร่วงลง 3.3% ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.5% ซึ่งส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มส่งออก
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ยังถูกกดดันจากการที่สหภาพยุโรป (EU) ออกร่างข้อเสนอแก้ไขกฎหมายควบคุมอุตสาหกรรมเภสัชภัณฑ์
หุ้นจีเอสเค ร่วงลง 3.9% ตามหุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ของยุโรป
แต่หุ้นกลุ่มธนาคารบวก 1.1% สวนทางตลาด โดยหุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด พุ่ง 2.2% หลังรายงานผลกำไรก่อนหักภาษีในไตรมาสแรกสูงกว่าคาด
หุ้นกลุ่มก่อสร้างบ้าน พุ่งขึ้น 3.3% สวนทางตลาดด้วยเช่นกัน โดยหุ้นเพอร์ซิมมอนซึ่งเป็นบริษัทสร้างบ้าน พุ่งขึ้น 4.9% หลังจากเปิดเผยว่าบริษัทวางแผนที่จะทำการสร้างบ้านจำนวนมากในปีนี้
บรรดานักลงทุนยังคงมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนทั้งในอังกฤษและสหรัฐ ก่อนการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า