ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันศุกร์ (5 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มพลังงาน ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนในสัปดาห์นี้โดยได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางรายใหญ่ ๆ และความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับระบบธนาคารของสหรัฐ
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,778.38 จุด เพิ่มขึ้น 75.74 จุด หรือ +0.98%
หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซ พุ่งขึ้น 2.4% ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นด้วย
หุ้นเอชเอสบีซี พุ่ง 2.7% หลังประสบความสำเร็จในการหยุดยั้งความพยายามที่จะแยกกิจการและขายธุรกิจที่ทำกำไรในเอเชียในการประชุมประจำปีร่วมกับนักลงทุน
แต่ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวลงในรอบสัปดาห์นี้ เนื่องจากวิกฤตธนาคารในสหรัฐ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในสัปดาห์นี้ ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยรายงานการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐได้คลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งช่วยหนุนตลาด
ตลาดหุ้นลอนดอนจะปิดทำการในวันจันทร์เนื่องในวันหยุดธนาคาร หลังจากพิธีบรมราชาภิเษกพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ในช่วงสุดสัปดาห์นี้
หุ้นไอเอจี เจ้าของสายการบินบริติช แอร์เวย์ พุ่ง 2.3% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไรในปีนี้ เนื่องจากอุปสงค์การเดินทางที่แข็งแกร่ง