ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (9 พ.ค.) โดยนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค รวมทั้งการประชุมของบรรดาผู้นำทางการเมืองของสหรัฐเพื่อหารือกันเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,561.81 จุด ลดลง 56.88 จุด หรือ -0.17%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,119.17 จุด ลดลง 18.95 จุด หรือ -0.46% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,179.55 จุด ลดลง 77.36 จุด หรือ -0.63%
นักลงทุนรอดูผลการประชุมเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ ระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน และนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ รวมทั้งผู้นำสภาคองเกรสอีกหลายคน ขณะที่ตลาดกังวลว่าการเจรจาดังกล่าวจะยังไม่นำไปสู่การบรรลุข้อตกลงระหว่างทำเนียบขาวและสภาคองเกรส เมื่อพิจารณาจากการที่นายแมคคาร์ธีกล่าวเมื่อไม่นานมานี้ว่า การเพิ่มเพดานหนี้จะต้องแลกเปลี่ยนกับการที่รัฐบาลยอมปรับลดงบประมาณรายจ่าย ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ปธน.ไบเดนไม่สามารถยอมรับได้ โดยระบุว่าการเพิ่มเพดานหนี้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถเจรจาต่อรองได้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยดัชนี CPI ในเวลา 19.30 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ทั่วไป (headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 5.0% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากแตะระดับ 5.0% เช่นกันในเดือนมี.ค. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน (core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 5.5% ซึ่งชะลอตัวจากระดับ 5.6% ในเดือนมี.ค.
ตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียนเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อตลาด โดยบริษัทเพย์พาล ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์รายใหญ่ของสหรัฐ ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีงบการเงิน 2566 และบริษัทสกายเวิร์คส์ ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ของบริษัทแอปเปิ้ล อิงค์ เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์กำไรและรายได้ในไตรมาสปัจจุบันที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ทั้งนี้ ราคาหุ้นเพย์พาล ดิ่งลง 12.73% และหุ้นสกายเวิร์คส์ ร่วงลง 5.15% ขณะที่หุ้นซัพพลายเออร์รายอื่น ๆ ของแอปเปิ้ลร่วงลงเช่นกัน ซึ่งรวมถึงหุ้นควอลคอมม์ ร่วงลง 2.3% หุ้นบรอดคอม ร่วงลง 1.7% และหุ้นคอร์นิง ปรับตัวลง 1%
หุ้นอันเดอร์ อาร์เมอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องกีฬาและชุดกีฬาชั้นนำของสหรัฐ ร่วงลง 5.66% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์กำไรและรายได้ที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
หุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 2.34% หลังจากสายการบินไรอันแอร์สั่งซื้อเครื่องบินจากโบอิ้งมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ขณะที่หุ้นโนวาแวกซ์ ทะยานขึ้น 27.79% หลังบริษัทประกาศแผนปรับลดพนักงานทั่วโลกในอัตราส่วน 25%