ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันพุธ (10 พ.ค.) โดยถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีกระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทจดทะเบียนได้ช่วยลดช่วงติดลบในตลาด
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 463.64 จุด ลดลง 1.77 จุด หรือ -0.38%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,361.20 จุด ลดลง 35.97 จุด หรือ -0.49%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,896.23 จุด ลดลง 59.25 จุด หรือ -0.37% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,741.33 จุด ลดลง 22.76 จุด หรือ -0.29%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง หลังการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า เงินเฟ้อของสหรัฐยังคงอยู่ในระดับสูง แม้ตลาดฟื้นตัวขึ้นในช่วงสั้น ๆ จากข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ดัชนี CPI ทั่วไปของสหรัฐลดลงเมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนเม.ย.ก็ตาม
นอกจากนี้ บรรดานักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐ ซึ่งกระทรวงการคลังสหรัฐเตือนว่า สหรัฐอาจผิดนัดชำระหนี้อย่างเร็วที่สุดในวันที่ 1 มิ.ย.นี้
หุ้นกลุ่มสินค้าส่วนบุคคลและครัวเรือน รวมถึงกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ปรับตัวลงมากที่สุด ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด
อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทจดทะเบียนได้ช่วยหนุนตลาด อาทิ หุ้นธนาคารเครดิต อากริโคลของฝรั่งเศส พุ่ง 5% หลังเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกสูงกว่าคาด เนื่องจากรายได้จากการเทรดดิงเพิ่มสูงขึ้น
บริษัท 205 แห่งในดัชนี STOXX600 รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกออกมาแล้ว โดยกว่าครึ่งนั้นรายงานผลประกอบการที่ดีกว่าคาด