ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุด ขานรับคาดการณ์ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสจะบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ภายในสัปดาห์นี้
ณ เวลา 18.51 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 126 จุด หรือ 0.38% สู่ระดับ 33,186 จุด
ราคาหุ้นของทาร์เก็ต คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้นในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในวันนี้ หลังเปิดเผยผลประกอบการสูงกว่าคาด
นักวิเคราะห์มีมุมมองเชิงบวกต่อการเจรจาเพิ่มเพดานหนี้ระหว่างทำเนียบขาวและสภาคองเกรส และคาดว่าทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงในที่สุด
ทั้งนี้ นายแอนดรูว์ ฮอลเลนโฮสต์ หัวหน้านักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ป ออกรายงานแสดงความเชื่อมั่น หลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ จัดการประชุมร่วมกับนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ รวมทั้งแกนนำในสภาคองเกรส เมื่อวานนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ ซึ่งเป็นการเจรจาครั้งที่ 2 หลังจากที่การเจรจาครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
"การประชุมระหว่างปธน.ไบเดนและคุณแมคคาร์ธีเป็นไปด้วยดีเท่าที่ทุกฝ่ายคาดหวังไว้ และเรายังคงคาดว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ในระยะยาว" รายงานระบุ
ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ระบุว่า การเจรจาเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ และตรงไปตรงมา
ด้านปธน.ไบเดนกล่าวหลังการประชุมว่า "ทุกฝ่ายมีฉันทามติร่วมกันว่า การผิดนัดชำระหนี้จะไม่ใช่ทางเลือกที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน"
ถ้อยแถลงของปธน.ไบเดนสอดคล้องกับนายมิตช์ แมคคอนเนลล์ แกนนำวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งกล่าวเช่นกันว่า สหรัฐจะไม่ผิดนัดชำระหนี้
ด้านนายแมคคาร์ธีกล่าวว่า แม้ทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ในการประชุมครั้งนี้ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะบรรลุข้อตกลงภายในปลายสัปดาห์นี้ และไม่ใช่เรื่องยากที่ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสจะทำข้อตกลงร่วมกัน
ทั้งนี้ หากทำเนียบขาวและสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ภายในวันที่ 1 มิ.ย. ก็จะส่งผลให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์