ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลงช่วงเช้านี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาเพดานหนี้รอบใหม่ระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ รวมทั้งจับตาข้อมูลตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2566 ของสหรัฐ และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนเม.ย.ในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลง 48 จุด หรือประมาณ 0.1% ในช่วงเช้านี้ ขณะที่ดัชนี S&P500 ลดลง 0.2% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 0.1%
ปธน.ไบเดน และนายแมคคาร์ธี จะกลับมาเจรจาเกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้อีกครั้งในวันจันทร์ (22 พ.ค.) หลังจากทั้งสองฝ่ายมีการหารือกันอย่างสร้างสรรค์ทางโทรศัพท์ภายหลังจากที่ปธน.ไบเดนเดินทางกลับจากการเข้าร่วมประชุม G7 ที่ประเทศญี่ปุ่น
นายแมคคาร์ธีเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การหารือทางโทรศัพท์ร่วมกับปธน.ไบเดนในวันอาทิตย์ (21 พ.ค.) เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ โดยทั้งสองฝ่ายมีเป้าหมายเดียวกันคือหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้รัฐบาลสหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเขามีความหวังมากขึ้นหรือไม่หลังจากการพูดคุยทางโทรศัพท์กับปธน.ไบเดน นายแมคคาร์ธีกล่าวว่า "แน่นอน ผมมีความหวังมากขึ้น ทีมงานของเรามีการพูดคุยกันในวันอาทิตย์ และเราจะจัดการเจรจาต่อเนื่องในวันจันทร์ ซึ่งผมคาดหวังว่าผลการเจรจาจะออกมาดีกว่าก่อนหน้านี้
นอกเหนือจากการเจรจาเพดานหนี้แล้ว นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย ซึ่งรวมถึงรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), ตัวเลข GDP ไตรมาส 1/2566 (ประมาณการครั้งที่ 2) และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนเม.ย. โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)