ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันจันทร์ (22 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มการเงิน แม้นักลงทุนยังคงมีความวิตกเกี่ยวกับปัญหาเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐ
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,770.99 จุด เพิ่มขึ้น 14.12 จุด หรือ +0.18% โดยปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน
หุ้นกลุ่มธนาคาร ปรับตัวขึ้น 1.0% โดยหุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด บวก 3.0% หลังแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับเพิ่มคำแนะนำลงทุนเป็น "ซื้อ" จาก "คงน้ำหนักการลงทุน"
หุ้นแนตเวสต์ กรุ๊ป บวก 1.2% หลังตกลงที่จะซื้อหุ้นคืนจากรัฐบาล ซึ่งจะทำให้ธนาคารกลายเป็นของเอกชน หลังจากได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลเป็นเวลา 15 ปีในช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินโลก
นักลงทุนจับตาการประชุมระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน และนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันจันทร์เวลา 2130 GMT หรือตรงกับเวลาไทย 04.30 น.ในวันอังคารนี้ เพื่อหารือเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐ เพียง 10 วันก่อนสหรัฐจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวอยู่ในช่วงแคบ ๆ มาตั้งแต่ปลายเดือนเม.ย. เนื่องจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนเป็นไปอย่างไร้ทิศทาง, แนวโน้มหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์อ่อนแอ และนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐ
หุ้นกลุ่มเดินทางและนันทนาการ ปรับตัวขึ้น 1.1% ขณะที่หุ้นไรอันแอร์ บวก 1.3% หลังเปิดเผยผลประกอบการเกือบสูงเป็นประวัติการณ์ในปีงบการเงินที่ผ่านมา
บรรดานักลงทุนจะรอการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้เพื่อประเมินภาวะเศรษฐกิจของอังกฤษ และเพื่อพิจารณาว่าธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหรือไม่