ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงในวันพุธ (24 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าเงินเฟ้อที่ระดับสูงในอังกฤษ จะทำให้ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก นอกจากนี้ ความวิตกเกี่ยวกับปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐส่งผลกระทบต่อตลาดด้วย
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,627.10 จุด ลดลง 135.85 จุด หรือ -1.75%
ตลาดหุ้นลอนดอนร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 เดือน หลังการเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อที่ระดับสูงของอังกฤษลดลงน้อยกว่าคาดในเดือนเม.ย. ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานพุ่งสู่ระดับสูงสุดในรอบ 31 ปี ซึ่งเพิ่มโอกาสที่ BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก
บรรดาเทรดเดอร์คาดว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 13 ติดต่อกัน
หุ้นกลุ่มก่อสร้างบ้านและหุ้นกลุ่มประกันชีวิตร่วงลง 4.5% และ 5.2% ตามลำดับ
หุ้นอวีว่า ซึ่งเป็นบริษัทประกัน ร่วงลง 5.9% หลังรายงานเงินทุนไหลเข้าสุทธิลดลงรายไตรมาส และซีเวียน แคปิตอล ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนเปิดเผยว่าได้ขายหุ้นทั้งหมดในอวีว่า
แต่หุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ กรุ๊ป พุ่งขึ้น 12.9% สวนทางตลาด หลังคาดการณ์รายได้เพิ่มขึ้น และเปิดเผยว่าจะเริ่มจ่ายเงินปันผลในเดือนพ.ย.