ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพุธ (31 พ.ค.) แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกหลังจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเพดานหนี้ของสหรัฐ
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 451.76 จุด ลดลง 4.87 จุด หรือ -1.07% หลังแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค. และร่วงลงรายเดือน 3.2%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,098.70 จุด ลดลง 111.05 จุด หรือ -1.54%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,664.02 จุด ลดลง 244.89 จุด หรือ -1.54% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,446.14 จุด ลดลง 75.93 จุด หรือ -1.01%
หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหรา และกลุ่มรถยนต์ที่พึ่งพาตลาดจีนนั้น นำตลาดหุ้นยุโรปร่วงลง หลังการเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่ากิจกรรมการผลิตของจีนหดตัวลงมากกว่าคาดในเดือนพ.ค.เนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนแอลง โดยจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของเยอรมนี
ส่วนหุ้นรายตัวที่ฉุดตลาดลงได้แก่ หุ้นเอสบีบี ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของสวีเดน ร่วงลง 27.7% หลังมีรายงานว่า บริษัทอาจละเมิดเงื่อนไขของข้อตกลงเงินกู้
นอกจากนี้ บรรดานักลงทุนจะรอดูผลการลงมติข้อตกลงขยายเพดานหนี้ของสหรัฐ เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงกำหนดเส้นตายในการผิดนัดชำระหนี้วันที่ 5 มิ.ย.นี้