ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันจันทร์ (5 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขายหุ้นออกมาเพื่อทำกำไร หลังจากตลาดดีดตัวขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา และตลาดถูกกดดันหลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลกิจกรรมทางธุรกิจที่อ่อนแอซึ่งทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 459.93 จุด ลดลง 2.22 จุด หรือ -0.48%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,200.91 จุด ลดลง 69.78 จุด หรือ -0.96%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,963.89 จุด ลดลง 87.34 จุด หรือ -0.54% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,599.99 จุด ลดลง 7.29 จุด หรือ -0.10%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง หลังสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจบ่งชี้ว่า ภาคบริการของสหรัฐแทบไม่มีการขยายตัวในเดือนพ.ค. ขณะที่ยอดสั่งซื้อของโรงงานเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความเห็นของนางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) และนายโยอาคิม นาเกล ประธานธนาคารบุนเดสแบงก์ ซึ่งตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในเดือนมิ.ย.
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเทเลคอมของยุโรปดีดตัวขึ้น 0.4% สวนทางตลาดหลังจากร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากอะเมซอน.คอมเปิดเผยว่ากำลังเจรจาเพื่อเสนอให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในราคาถูก
ส่วนหุ้นรายตัวที่บวกสวนตลาด อาทิ หุ้นเอซอส (ASOS) ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกสินค้าแฟชั่น พุ่งขึ้น 7.1% หลังได้รับการเสนอซื้อหุ้นเป็นมูลค่าราว 1 พันล้านปอนด์จากบริษัทเทรนดอล (Trendyol) ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งที่ได้รับการสนับสนุนโดยอาลีบาบา