ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพุธ (7 มิ.ย.) โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ที่ปรับตัวลง และนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นในยูโรโซน แม้การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งจากบริษัทอินดิเท็กซ์เจ้าของแบรนด์ซาร่าได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มค้าปลีกและตลาดหุ้นสเปนขึ้นก็ตาม
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 460.80 จุด ลดลง 0.88 จุด หรือ -0.19%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,202.79 จุด ลดลง 6.21 จุด หรือ -0.09%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,960.56 จุด ลดลง 31.88 จุด หรือ -0.20% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,624.34 จุด ลดลง 3.76 จุด หรือ -0.05%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐซึ่งถูกกดดันก่อนการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อและการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า
ตลาดหุ้นยุโรปยังคงปรับตัวอยู่ในช่วงแคบ ๆ ในสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางรายใหญ่ ๆ อาทิ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า ท่ามกลางภาวะการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอลง
บรรดานักลงทุนคาดว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า ขณะที่ ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25%
นายคลาส นอต กรรมการบริหารของ ECB ระบุว่า ECB จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนมิ.ย.และก.ค. และพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปหากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สูงเกินไป
หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ร่วงลงมากที่สุดในยุโรป ซึ่งบดบังการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มที่อ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจ อาทิ กลุ่มน้ำมันและก๊าซ รวมถึงกลุ่มธนาคาร
ส่วนหุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับตัวขึ้น 2% หลังหุ้นอินดิเท็กซ์ พุ่งขึ้น 5.7% สวนทางตลาดสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 6 ปีหลังเปิดเผยผลกำไรรายไตรมาสพุ่งขึ้นเกินคาด 54% และเปิดเผยยอดขายเสื้อผ้าคอลเล็กชันฤดูใบไม้ผลิ-ฤดูร้อนเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค.