ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันศุกร์ (9 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายหุ้นก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 460.01 จุด ลดลง 0.69 จุด หรือ -0.15% และปรับตัวลง 0.5% ในรอบสัปดาห์นี้
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,213.14 จุด ลดลง 9.01 จุด หรือ -0.12%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,949.84 จุด ลดลง 40.12 จุด หรือ -0.25% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,562.36 จุด ลดลง 37.38 จุด หรือ -0.49%
บรรดานักลงทุนวิตกว่า เฟดอาจเลือกที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า ขณะที่ ECB จะยังคงเดินหน้าคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไป
ตลาดการเงินคาดการณ์ในขณะนี้ว่า มีโอกาส 73% ที่เฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย.นี้ แต่จะปรับขึ้นอีกครั้งในเดือนก.ค. ส่วน ECB นั้น เทรดเดอร์คาดว่า มีโอกาส 98% ที่ ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า
ตลาดหุ้นยุโรปถูกกดดัน เนื่องจากหุ้นกลุ่มประกันและกลุ่มธนาคารที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยลดลง 0.5% และ 0.4% ตามลำดับ
หุ้นกลุ่มเคมีภัณฑ์นำตลาดร่วงลง 2.0% และปรับตัวลง 3% ในรอบสัปดาห์นี้ หลังบริษัทโครดา อินเทอร์เนชันแนล ซึ่งเป็นบริษัทด้านเคมีภัณฑ์ของอังกฤษคาดการณ์ผลประกอบการก่อนหักภาษีออกมาต่ำกว่าคาดการณ์