ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (12 มิ.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2565 โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐ และผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,066.33 จุด เพิ่มขึ้น 189.55 จุด หรือ +0.56%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,338.93 จุด เพิ่มขึ้น 40.07 จุด หรือ +0.93% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,461.92 จุด พุ่งขึ้น 202.78 จุด หรือ +1.53%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นนำตลาด โดยหุ้นแอปเปิ้ล และหุ้นไมโครซอฟท์ ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 1.5% และนับตั้งแต่ต้นปีนี้ ราคาหุ้นแอเปิ้ลพุ่งขึ้น 41% และหุ้นไมโครซอฟท์พุ่งขึ้น 38%
ส่วนหุ้นตัวอื่น ๆ ในกลุ่มเทคโนโลยีนั้น หุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 2.2% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 12 วันทำการ และทำสถิติปิดในแดนบวกที่ยาวนานที่สุดของเทสลา ขณะที่หุ้นออราเคิล ทะยานขึ้น 5.5% ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการ ส่วนหุ้นอะเมซอน และหุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 2.54% และ 1.15% ตามลำดับ
หุ้นบรอดคอม ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 6.3% หลังจากสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บรอดคอมมีแนวโน้มที่จะได้รับอนุมัติจากหน่วยงานต่อต้านการผูกขาดของสหภาพยุโรป (EU) ให้เข้าซื้อกิจการบริษัทวีเอ็มแวร์ (VMware) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้ง ในวงเงิน 6.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ตลาดฟิลาเดลเฟีย (PHLX Semiconductor Index) พุ่งขึ้น 3.3%
โกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มคาดการณ์แนวโน้มดัชนี S&P500 โดยระบุว่า ภายในสิ้นปีนี้ ดัชนี S&P500 จะพุ่งขึ้นแตะระดับ 4,500 จุด จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 4,000 จุด เนื่องจากภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นเป็นไปอย่างคึกคัก
นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ในวันนี้ เวลาประมาณ 19.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 4.1% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากระดับ 4.9% ในเดือนเม.ย. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 5.3% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากระดับ 5.5% ในเดือนเม.ย.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมเฟดซึ่งจะเปิดฉากขึ้นในวันอังคารที่ 13 มิ.ย. และแถลงมติการประชุมในวันพุธที่ 14 มิ.ย.ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีที่ 15 มิ.ย.ตามเวลาไทย ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมครั้งนี้