ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันอังคาร (13 มิ.ย.) หลังการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐที่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีได้สนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้นตามราคาโลหะหลังจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 463.27 จุด เพิ่มขึ้น 2.54 จุด หรือ +0.55%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,290.80 จุด เพิ่มขึ้น 40.45 จุด หรือ +0.56%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,230.68 จุด เพิ่มขึ้น 132.81 จุด หรือ +0.83% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,594.78 จุด เพิ่มขึ้น 24.09 จุด หรือ +0.32%
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในเดือนพ.ค. และปรับตัวขึ้นรายปีน้อยที่สุดในรอบกว่า 2 ปี ซึ่งสนับสนุนมุมมองที่ว่า เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไม่เปลี่ยนแปลงในการประชุมวันพุธนี้
เครื่องมือ FedWatch tool ของ CME บ่งชี้ว่า บรรดาเทรดเดอร์คาดว่า มีโอกาส 94% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25% และมีโอกาส 60% ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค.
ส่วนธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะจัดการประชุมนโยบายในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ดัชนี CPI ของเยอรมนี เพิ่มขึ้น 6.3% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนพ.ค.
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น 1.4% ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ พุ่งขึ้น 2.7% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์
ราคาโลหะอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น หลังจากธนาคารกลางจีน (PBOC) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้นเป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน
หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหรา อาทิ หลุยส์ วิตตอง และหุ้นริชมอนด์ ซึ่งพึ่งพาตลาดจีนปรับตัวขึ้น 0.9% และ 2.0% ตามลำดับ