ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันอังคาร (13 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวขึ้นตามราคาโลหะและน้ำมันดิบ
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,594.78 จุด เพิ่มขึ้น 24.09 จุด หรือ +0.32%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่อุตสาหกรรม พุ่งขึ้น 3.7% แตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ เนื่องจากราคาโลหะปรับตัวขึ้นขานรับความหวังว่าอุปสงค์จะเพิ่มขึ้น หลังจีนซึ่งเป็นผู้ใช้โลหะรายใหญ่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
หุ้นกลุ่มพลังงาน ปรับตัวขึ้น 0.7% โดยบวกตามราคาน้ำมันดิบ
ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้ หลังการเปิดเผยข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนพ.ค. และเพิ่มขึ้นรายปีในอัตราน้อยที่สุดในรอบกว่า 2 ปี
แต่หุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย อาทิ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มก่อสร้างบ้าน ร่วงลง 2.2% และ 3% ตามลำดับ หลังนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้ เนื่องจากข้อมูลบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของอังกฤษแข็งแกร่งมากกว่าคาดในรอบ 3 เดือนจนถึงเดือนเม.ย.
นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้ ขณะที่คาดว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เช่นกันในการประชุมสัปดาห์หน้า