ดัชนีดาวโจนส์พลิกดีดตัวสู่แดนบวก โดยปรับตัวเหนือระดับ 34,000 จุด หลังร่วงลงกว่า 100 จุดในช่วงแรก
ณ เวลา 22.39 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 34,073.11 จุด บวก 19.24 จุด หรือ 0.06%
นักลงทุนกลับเข้าซื้อหุ้น ขานรับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด และไม่แตกต่างจากถ้อยแถลงหลังการประชุมเฟดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ นายพาวเวลมีกำหนดกล่าวถ้อยแถลงต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และนโยบายการเงินของเฟด โดยกล่าวแถลงการณ์ต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ ก่อนที่จะกล่าวต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพรุ่งนี้
นายพาวเวลส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จนกว่าจะมีความคืบหน้ามากขึ้นเกี่ยวกับการชะลอตัวของเงินเฟ้อ
นายพาวเวลกล่าวว่า การประกาศคงอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นเพียงการพักการดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยเพียงชั่วคราว มากกว่าที่จะบ่งชี้ว่าเฟดได้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
"กรรมการเกือบทุกท่านใน FOMC มองว่าเป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปภายในปลายปีนี้" นายพาวเวลกล่าว พร้อมเสริมว่า เงินเฟ้อได้ชะลอตัวลง แต่ยังคงอยู่เหนือเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% ซึ่งทำให้เฟดยังคงมีงานที่จะต้องทำ
นายพาวเวลยังระบุว่า การทำให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวลง จำเป็นที่เศรษฐกิจจะต้องชะลอตัวลงต่ำกว่าระดับแนวโน้ม
ประธานเฟดย้ำว่าการตัดสินใจด้านอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เฟดได้รับในการประชุมแต่ละนัด มากกว่าที่จะมีการตั้งธงกำหนดแนวทางไว้ล่วงหน้า
นอกจากนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า ตลาดแรงงานยังคงตึงตัว แม้มีสัญญาณบ่งชี้ภาวะที่ผ่อนคลายลง โดยประชาชนในวัย 25-54 ปีได้เข้าสู่ตลาดแรงงานมากขึ้น ขณะที่ค่าจ้างได้ชะลอตัวลง
ขณะเดียวกัน นายพาวเวลได้กล่าวถึงภาวะปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในภาคธนาคารในช่วงต้นปีนี้ โดยระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นสิ่งเตือนใจว่าเฟดจำเป็นต้องมีการออกกฎระเบียบและกำกับดูแลอย่างเหมาะสม