ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 456.64 จุด เพิ่มขึ้น 0.59 จุด หรือ +0.13%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,312.73 จุด เพิ่มขึ้น 26.41 จุด หรือ +0.36%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,946.72 จุด ลดลง 2.28 จุด หรือ -0.01% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,471.69 จุด ลดลง 28.80 จุด หรือ -0.38%
หุ้น H&M บริษัทค้าปลีกด้านแฟชั่นรายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลก พุ่งขึ้น 18.2% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี หลังเปิดเผยผลกำไรไตรมาส 2 ที่สูงเกินคาด
ตลาดหุ้นสเปนปรับตัวขึ้น หลังการเปิดเผยข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 1.9% เมื่อเทียบรายปีในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2564 ซึ่งทำให้สเปนเป็นประเทศแรกในยูโรโซนที่เงินเฟ้อลดลงต่ำกว่า 2%
ส่วนตลาดหุ้นเยอรมนีปรับตัวลง หลังการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นมากเกินคาดในเดือนมิ.ย.
บรรดานักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น โดยการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐตอกย้ำความกังวลที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้
ธนาคารกลางสวีเดนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ตามคาด และคาดว่าจะปรับขึ้นอีกอย่างน้อย 1 ครั้งในปีนี้
ดัชนีหุ้นกลุ่มรถยนต์ บวก 1.3% หลังหุ้นเรโนลต์ของฝรั่งเศส พุ่ง 5.0% หลังปรับเพิ่มแนวโน้มการเงินทั้งปีหลังประสบความสำเร็จในการเปิดตัวรถยนต์ในช่วงที่ผ่านมา
หุ้นเอ็นจีซึ่งเป็นบริษัทพลังงานของฝรั่งเศส พุ่ง 4.1% หลังบรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลเบลเยียมเพื่อต่ออายุการใช้งานของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของเบลเยียมเป็นเวลาอีก 10 ปี
หุ้นอิกซ์ตรอน ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 6.0% หลังซิตี้กรุ๊ปเพิ่มคำแนะนำ "ซื้อ" หุ้นตัวนี้