ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบในวันนี้ (30 มิ.ย.) ซึ่งเป็นวันซื้อขายสุดท้ายของครึ่งปีแรก เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวล หลังสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ออกมาเปิดเผยว่า กิจกรรมในภาคการผลิตในจีนหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3
ทั้งนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 18,881.43 จุด ลดลง 52.93 จุด หรือ -0.28% ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,178.92 จุด ลดลง 3.46 จุด หรือ -0.11% และดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 33,068.36 จุด ลดลง 165.78 จุด หรือ -0.50%
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยในวันนี้ (30 มิ.ย.) ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ภาคการผลิตอย่างเป็นทางการของจีนอยู่ที่ 49.0 ในเดือนมิ.ย. เทียบกับ 48.8 ในเดือนพ.ค. และ 49.2 ในเดือนเม.ย.
ตัวเลข PMI ที่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตจีนหดตัว
หุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง ขณะที่นักลงทุนประเมินดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของกรุงโตเกียว ซึ่งสูงเหนือเป้าหมายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ติดต่อกัน 13 เดือน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ของตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี (29 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารรายใหญ่ที่พุ่งขึ้น หลังผ่านการทดสอบภาวะวิกฤตประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
บรรดานักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลจากสหรัฐ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดจับตามอง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 269.76 จุด หรือ 0.8% เมื่อวานนี้ โดยหุ้นกลุ่มธนาคารนำตลาดปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชสและโกลด์แมน แซคส์ปรับตัวขึ้นหุ้นละกว่า 3% ส่วนหุ้นเวลส์ฟาร์โกบวก 4.5%
ดัชนี S&P500 ขยับขึ้น 0.45% ปิดที่ 4,396.44 ส่วนดัชนี Nasdaq Composite ปิดทรงตัวที่ 13,591.33