ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว และจะเป็นปัจจัยชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ณ เวลา 20.31 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 34,299.84 จุด บวก 177.42 จุด หรือ 0.52%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี PCE ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.8% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 4.3% ในเดือนเม.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ค. จากระดับ 0.4% ในเดือนเม.ย.
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ ปรับตัวขึ้น 4.6% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.7% จากระดับ 4.7% ในเดือนเม.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.3% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 0.4% ในเดือนเม.ย.
ทั้งนี้ ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
นอกจากนี้ ตลาดได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งวานนี้ โดยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2566 ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.0% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.4% และสูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ที่ระดับ 1.1% และ 1.3% ตามลำดับ ขณะที่ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 26,000 ราย สู่ระดับ 239,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 265,000 ราย
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปิดฉากการซื้อขายเดือนมิ.ย. รวมทั้งสิ้นสุดไตรมาส 2 และช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 ในวันนี้
ข้อมูล ณ ขณะปิดตลาดวานนี้ ระบุการปรับตัวของดัชนีดาวโจนส์, S&P 500 และ Nasdaq ในเดือนมิ.ย., ช่วงไตรมาส 2 และช่วงครึ่งปีแรก เป็นดังนี้ :-
-ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น 3.69% ในเดือนมิ.ย. ปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2565
-ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น 2.55% ในไตรมาส 2 ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 3
-ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น 2.94% ในช่วงครึ่งปีแรก
-ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 5.18% ในเดือนมิ.ย. ปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. และปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 4
-ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 6.99% ในไตรมาส 2 ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 3
-ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 14.51% ในช่วงครึ่งปีแรก ทำสถิติปรับตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2561
-ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 5.07% ในเดือนมิ.ย. ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4
-ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 11.2% ในไตรมาส 2 ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 2
-ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้นเกือบ 30% ในช่วงครึ่งปีแรก ทำสถิติปรับตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2526