ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันพุธ (5 ก.ค.) เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มการเงินร่วงลง หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีนและอังกฤษ ทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของอุปสงค์ทั่วโลก
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,442.10 จุด ลดลง 77.62 จุด หรือ -1.03% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงวันเดียวมากที่สุดในรอบ 1 เดือน
หุ้นกลุ่มน้ำมันและกลุ่มเหมืองแร่โลหะพื้นฐาน ร่วง 2.2% และ 1% ตามลำดับ ขณะที่การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจทั่วโลกที่ซบเซาได้ถ่วงแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันและแร่โลหะ
ผลสำรวจของภาคเอกชนบ่งชี้ว่า ภาคบริการของจีนขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบ 5 เดือนในเดือนมิ.ย.
หุ้นเอชเอสบีซี และหุ้นพรูเดนเชียล ซึ่งพึ่งพาตลาดจีนนั้น ปรับตัวลง 0.4% และ 3.9% ตามลำดับ
นอกจากนี้ ผลสำรวจบ่งชี้ว่า การขยายตัวของภาคเอกชนอังกฤษชะลอลงอย่างรุนแรงในเดือนที่ผ่านมา แม้อัตราเงินเฟ้อลดลง ขณะที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษส่งผลกระทบต่ออุปสงค์
ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวขึ้นน้อยกว่า 1% ในปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่ระดับสูง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความต้องการลงทุนในตลาดหุ้น
บรรดานักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานประชุมเดือนมิ.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเปิดเผยหลังจากตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการไปแล้ว