ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าลบในวันนี้ (6 ก.ค.) โดยเคลื่อนไหวตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวลงเมื่อวันพุธ (5 ก.ค.) หลังรายงานการประชุมประจำเดือนมิ.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า เฟดเสียงแตกเกี่ยวกับการตัดสินใจตรึงดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.และคาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติมในอนาคต แม้ว่าจะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ชะลอตัวลงก็ตาม
ทั้งนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 18,522.43 จุด ลดลง 587.95 จุด หรือ -3.08% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,205.97 จุด ลดลง 16.97 จุด หรือ -0.53% ขณะที่ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 32,933.19 จุด ร่วงลง 405.51 จุด หรือ -1.22%
เฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนมิ.ย.ในวันพุธ โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนหนึ่งสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย. เนื่องจากเห็นว่าการชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อเป็นไปอย่างเชื่องช้า อย่างไรก็ดี ภายหลังจากการอภิปรายสิ้นสุดลง กรรมการเฟดทุกคนได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันดังกล่าว
รายงานประชุมระบุว่า การที่เฟดตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.นั้น ก็เพื่อให้กรรมการมีเวลามากขึ้นในการประเมินความคืบหน้าทางเศรษฐกิจ รวมทั้งการประเมินว่าเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะกลับสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% หรือไม่ โดยปัจจุบันเงินเฟ้อสหรัฐอยู่สูงกว่าเป้าหมายดังกล่าวกว่า 2 เท่า
นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐเปิดฉากภารกิจเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งในสัปดาห์นี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคาดการณ์กันว่านางเยลเลนจะได้พบปะกับบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของจีน โดยกรณีดังกล่าวมีขึ้นหลังจีนยกเลิกหมายกำหนดการเยือนจีนของนายโจเซฟ บอร์เรล ผู้แทนระดับสูงฝ่ายกิจการต่างประเทศของสหภาพยุโรป (EU) แบบไม่คาดคิดเมื่อวันพุธ
ผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางมาเลเซียจะตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 3% ในการประชุมวันนี้
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงเมื่อวานนี้ หลังเฟดเผยรายงานการประชุมเดือนมิ.ย. โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 0.38%, ดัชนี S&P500 ขยับลง 0.2% และดัชนี Nasdaq Composite ปรับตัวลง 0.18%