ตลาดหุ้นยุโรปเปิดลบในวันนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัวและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมบั่นทอนความต้องการเสี่ยงในกลุ่มนักลงทุน ขณะที่ ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ หลังจีนประกาศควบคุมการส่งออกโลหะบางชนิดเป็นอีกปัจจัยที่ถ่วงหุ้นยุโรป
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 เปิดตลาดที่ระดับ 457.63 จุด ลดลง 0.31 จุด หรือ -0.07%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีเปิดตลาดวันนี้ที่ 15,816.11 จุด ลดลง 121.47 จุด หรือ -0.76% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดที่ 7,239.90 จุด ลดลง 70.91 จุด หรือ -0.67%
หุ้นกลุ่มก่อสร้างและวัสดุนำตลาดปรับตัวลดลง โดยปรับตัวลงกว่า 1%
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนมิ.ย.ในวันพุธ (5 ก.ค.) โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนหนึ่งสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย. เนื่องจากเห็นว่าการชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อเป็นไปอย่างเชื่องช้า อย่างไรก็ดี ภายหลังจากการอภิปรายสิ้นสุดลง กรรมการเฟดทุกคนได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันดังกล่าว
รายงานประชุมระบุว่า การที่เฟดตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.นั้น ก็เพื่อให้กรรมการมีเวลามากขึ้นในการประเมินความคืบหน้าทางเศรษฐกิจ รวมทั้งการประเมินว่าเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะกลับสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% หรือไม่ โดยปัจจุบันเงินเฟ้อสหรัฐอยู่สูงกว่าเป้าหมายดังกล่าวกว่า 2 เท่า
ขณะเดียวกันรายงานประชุมระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ หลังจากที่เฟดตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. อย่างไรก็ตาม กรรมการเฟดต้องการให้ชะลอความแรงของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้เฟดมีเวลามากขึ้นในการประเมินผลกระทบที่เกิดจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา