ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (10 ก.ค.) โดยหุ้นกลุ่มเดินทางและนันทนาการนำตลาดปรับตัวขึ้น และช่วยลดผลกระทบจากข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนแอของจีนซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่ซบเซาในประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับสองของโลก
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 448.47 จุด เพิ่มขึ้น 0.82 จุด หรือ +0.18%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,143.69 จุด เพิ่มขึ้น 31.81 จุด หรือ +0.45%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,673.16 จุด เพิ่มขึ้น 69.76 จุด หรือ +0.45% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,273.79 จุด เพิ่มขึ้น 16.85 จุด หรือ +0.23%
ตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัวขึ้นหลังปรับตัวลงในสัปดาห์ที่แล้วรุนแรงที่สุดในรอบ 4 เดือน
หุ้นกลุ่มเดินทางและนันทนาการ ปรับตัวขึ้น 1.3% โดยฟื้นตัว หลังจากร่วงลงกว่า 4% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ตลาดถูกกดดันในช่วงแรกหลังจีนเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลดลงมากที่สุดในรอบกว่า 7 ปีในเดือนมิ.ย. ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ส่งสัญญาณถึงแนวโน้มเงินฝืด โดยจีนจำเป็นต้องดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้อุปสงค์ฟื้นตัว
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่พึ่งพารายได้จากตลาดจีนนั้น ลดลง 0.6% ตามราคาโลหะที่ปรับตัวลง
การร่วงลง 1.1% ของหุ้นโนโว นอร์ดิสก์ถ่วงตลาดด้วย โดยสำนักงานยาของยุโรปกำลังตรวจสอบยารักษาโรคเบาหวาน และยาลดน้ำหนักของบริษัท หลังหน่วยงานกำกับดูแลด้านสุขภาพของไอซ์แลนด์ระบุว่า มีผู้ป่วย 3 รายที่ใช้ยาดังกล่าวคิดฆ่าตัวตายหรือทำร้ายตัวเอง
ส่วนหุ้นบวกหนุนตลาดได้แก่ หุ้นไบเออร์ เพิ่มขึ้น 1.6% หลังมีรายงานว่า บริษัทอาจแยกธุรกิจ และนำหุ้นครอปไซแอนซ์ (CropScience) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น
บรรดานักลงทุนจะรอการเปิดเผยดัชนี CPI เดือนมิ.ย.ของสหรัฐในวันพุธนี้เพื่อบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ และการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เริ่มจากธนาคารขนาดใหญ่ อาทิ เจพีมอร์แกน, เวลส์ ฟาร์โก้ และซิตี้กรุ๊ป เพื่อประเมินภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ