ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นในวันพุธ (12 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารหลังผ่านการทดสอบภาวะวิกฤตของธนาคารกลางอังกฤษ และการปรับตัวขึ้นของราคาโลหะหนุนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้น ท่ามกลางสัญญาณเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงในสหรัฐ
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,416.11 จุด เพิ่มขึ้น 133.59 จุด หรือ +1.83%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 8 เดือน ขานรับสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนมิ.ย. และเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบกว่า 2 ปี เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงลดลง ซึ่งเพิ่มความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะลดการคุมเข้มนโยบายการเงิน
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอังกฤษลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ เนื่องจากข้อมูลเงินเฟ้อทำให้นักลงทุนปรับลดคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ BoE
ตลาดคาดการณ์ในขณะนี้ว่า มีโอกาส 58% ที่ BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ลดลงจากราว 80% ก่อนหน้านี้
หุ้นกลุ่มเหมืองโลหะอุตสาหกรรมนำตลาดปรับตัวขึ้น โดยพุ่งขึ้น 4.4% หลังราคาโลหะพื้นฐานส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นเนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าลง
หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้น 2.8% หลัง BoE เปิดเผยว่า ธนาคารรายใหญ่ 8 แห่งของอังกฤษผ่านการทดสอบภาวะวิกฤต
ส่วนหุ้นรายตัวที่พุ่งขึ้นนั้น อาทิ หุ้น เจดี เวเธอร์สพูน ซึ่งทำธุรกิจผับ พุ่งขึ้น 10.3% หลังคาดการณ์ผลกำไรทั้งปีตามการคาดการณ์ของตลาด เนื่องจากคาดว่าอุปสงค์จะแข็งแกร่งและต้นทุนด้านพลังงานลดลง