ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุด ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของภาคธนาคาร
ณ เวลา 20.31 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 34,561.07 จุด บวก 165.93 จุด หรือ 0.48%
ราคาหุ้นเจพีมอร์แกน เชส, เวลส์ ฟาร์โก และซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้นในวันนี้ หลังเปิดเผยกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 2/2566
อย่างไรก็ดี ข้อมูลจาก FactSet ระบุว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทในดัชนี S&P 500 จะรายงานตัวเลขกำไรลดลง 7% ในไตรมาส 2/2566 ซึ่งจะเป็นผลประกอบการที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2/2563 ซึ่งขณะนั้นกำไรของบริษัทในดัชนี S&P 500 ทรุดตัวลง 31.6%
ส่วนข้อมูลจาก Refinitiv ระบุว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทในดัชนี S&P 500 จะรายงานตัวเลขกำไรลดลง 6.4% ในไตรมาส 2/2566
ตลาดได้รับแรงหนุนจากคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใกล้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ต่ำกว่าคาด โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียง 1 ครั้งในปีนี้ ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 94.9% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. และให้น้ำหนักเพียง 5.1% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25%
นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 42.7% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 30-31 ม.ค.2567 โดยให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นจากระดับ 18.0% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว