ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันจันทร์ (17 ก.ค.) โดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่นำตลาดร่วงลง หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอจากจีนถ่วงราคาโลหะร่วงลง ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงตามราคาน้ำมันดิบ
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,406.42 จุด ลดลง 28.15 จุด หรือ -0.38%
เศรษฐกิจจีนขยายตัวในอัตราที่อ่อนแอในไตรมาส 2 โดยแนวโน้มการขยายตัวหลังโควิดนั้นได้ลดลงอย่างรวดเร็ว และเพิ่มแรงกดดันให้ผู้กำหนดนโยบายทำการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น
หุ้นกลุ่มโลหะอุตสาหกรรม ปรับตัวลง 2.6% เนื่องจากราคาโลหะพื้นฐานส่วนใหญ่เผชิญแรงกดดัน
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 0.5% ตามราคาน้ำมันที่ลดลง
นักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของอังกฤษในวันพุธนี้ หลังข้อมูลของสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้วบ่งชี้ว่า เงินเฟ้อลดลง ขณะที่ตลาดคาดว่าเงินเฟ้อของอังกฤษจะลดลงเล็กน้อยในเดือนมิ.ย.สู่ระดับ 8.2% จาก 8.7% ในเดือนพ.ค.
ผลสำรวจภาคอุตสาหกรรมบ่งชี้ว่า ราคาบ้านในอังกฤษลดลงในเดือนก.ค. เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจำนองเพิ่มขึ้น
หุ้นที่เกี่ยวกับบ้าน อาทิ อสังหาริมทรัพย์ และก่อสร้างบ้าน ลดลง 1.7% และ 0.8% ตามลำดับ
ดัชนี FTSE100 ปรับตัวลงกว่า 7% แล้วจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เข้าทดสอบในเดือนก.พ. เนื่องจากราคาน้ำมันและโลหะปรับตัวลงจากความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์ของจีน
แต่หุ้นแอสตัน มาร์ติน พุ่ง 3.7% สวนทางตลาด หลังบาร์เคลย์ส ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายหุ้นสู่ระดับ 375 ปอนด์ และหุ้นจอห์นสัน แมทธีย์ บวก 0.7% หลังดอยซ์แบงก์ปรับเพิ่มคำแนะนำลงทุนจาก "ถือ" เป็น "ซื้อ"