ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวแคบ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลประกอบการและตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ
ณ เวลา 18.47 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 2 จุด หรือ 0.01% สู่ระดับ 35,144 จุด
ราคาหุ้นของโกลด์แมน แซคส์ และฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลงในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นนิวยอร์กในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนผิดหวังต่อการเปิดเผยผลประกอบการ
นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทเน็ตฟลิกซ์ และเทสลา ซึ่งจะมีการเปิดเผยหลังจากปิดตลาดวันนี้
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 300 จุดวานนี้ ทำสถิติปรับตัวขึ้น 7 วันติดต่อกัน ซึ่งเป็นช่วงขาขึ้นที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2564 ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่ง รวมทั้งความเชื่อมั่นที่ว่าสหรัฐจะไม่เผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย
นอกจากนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใกล้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ต่ำกว่าคาด
โกลด์แมน แซคส์ออกรายงานปรับลดคาดการณ์โอกาสที่สหรัฐจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วง 12 เดือนข้างหน้าเหลือเพียง 20% จากเดิมคาดการณ์ที่ 25%
"เหตุผลหลักที่ทำให้เราปรับลดคาดการณ์ดังกล่าวคือข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาดในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เรามั่นใจว่าเงินเฟ้อสามารถชะลอตัวลงสู่ระดับที่ยอมรับได้ โดยไม่จำเป็นต้องเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย" นายแจน แฮตซิอุซ หัวหน้านักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ระบุ
นายแฮตซิอุซคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัว 2.3% ในไตรมาส 2 ขณะที่ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นมากขึ้น และอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 3.6% ในเดือนมิ.ย.
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.4% ในไตรมาส 2 หลังจากขยายตัว 2.0% ในไตรมาส 1
นอกจากนี้ นายแฮตซิอุซคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งสุดท้ายในวัฏจักรปัจจุบัน