ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุด โดยปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 9 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นช่วงขาขึ้นที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2560 ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
ณ เวลา 20.39 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 35,227.30 จุด บวก 166.09 จุด หรือ 0.47%
ข้อมูลจาก FactSet ระบุว่า 74% ของบริษัทในดัชนี S&P 500 ที่ได้เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 แล้ว มีกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้
ราคาหุ้นของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) พุ่งขึ้นกว่า 2% ขานรับผลประกอบการที่สดใส
อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ร่วงลง 0.4% ในวันนี้ โดยถูกกดดันจากการดิ่งลงของราคาหุ้นเทสลาและเน็ตฟลิกซ์
ทั้งนี้ ราคาหุ้นเทสลาดิ่งลงเกือบ 5% หลังนายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า การผลิตรถยนต์ของเทสลาจะชะลอตัวลงในไตรมาส 3/2566 เนื่องจากมีการปิดโรงงานหลายแห่งเพื่อทำการปรับปรุงในช่วงฤดูร้อน
ส่วนราคาหุ้นเน็ตฟลิกซ์ทรุดตัวลงเกือบ 8% หลังบริษัทเปิดเผยรายได้ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 2/2566
นอกจากนี้ นักลงทุนเทขายทำกำไรหุ้นเน็ตฟลิกซ์ หลังราคาหุ้นพุ่งขึ้นกว่า 60% นับตั้งแต่ต้นปี 2566
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 9,000 ราย สู่ระดับ 228,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 242,000 ราย
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 9,250 ราย สู่ระดับ 237,500 ราย
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 33,000 ราย สู่ระดับ 1.75 ล้านราย