ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุด ขณะที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2566 ที่สูงกว่าคาดการณ์
ณ เวลา 19.57 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 150 จุด หรือ 0.42% สู่ระดับ 35,834 จุด
หากปิดตลาดในแดนบวกวันนี้ ดัชนีดาวโจนส์จะทำสถิติปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 14 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นช่วงขาขึ้นยาวนานที่สุดในรอบ 126 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2440
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรกสำหรับ GDP ประจำไตรมาส 2/2566 ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.4% ในไตรมาสดังกล่าว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.0% และสูงกว่าตัวเลข GDP ประจำไตรมาส 1 ซึ่งมีการขยายตัว 2.0%
นอกจากนี้ นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ หลังรายงานดังกล่าวระบุว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ปรับตัวขึ้น 2.6% ในไตรมาส 2 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.2% และชะลอตัวจากระดับ 4.1% ในไตรมาส 1
ขณะเดียวกัน ตลาดได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์, คอมแคสต์ คอร์ป และแมคโดนัลด์ คอร์ป
ข้อมูลจาก FactSet ระบุว่า 81% ของบริษัทในดัชนี S&P 500 ที่ได้เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 แล้ว มีกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้