ตลาดหุ้นยุโรปปิดทะยานขึ้นในวันพฤหัสบดี (27 ก.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ใกล้ที่จะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 471.74 จุด เพิ่มขึ้น 6.28 จุด หรือ +1.35%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,465.24 จุด เพิ่มขึ้น 150.17 จุด หรือ +2.05%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,406.03 จุด เพิ่มขึ้น 274.57 จุด หรือ +1.70% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,692.76 จุด เพิ่มขึ้น 15.87 จุด หรือ +0.21%
ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 17 เดือน และดัชนี STOXX 50 แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 15 เดือนนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2550
นอกจากนี้ ดัชนี STOXX 600 มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน เนื่องจากความหวังเกี่ยวกับการยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐได้ช่วยชดเชยความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนและการขยายตัวของผลกำไร
ECB ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามคาดในวันพฤหัสบดี (27 ก.ค.) สู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 20 ปี และได้ตัดข้อความในคำแถลงที่ระบุว่า จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ซึ่งบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่ว่า ECB จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนส.ค. ขณะที่บรรดา เทรดเดอร์คาดการณ์ในขณะนี้ว่า มีโอกาสราว 38% ที่ ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบกับ 44% ก่อนการประกาศอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุด
การตัดสินใจของ ECB มีขึ้น หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เมื่อวันพุธ (26 ก.ค.) ซึ่งมีการคาดการณ์ด้วยว่า เฟดจะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
หุ้นเนสท์เล่ พุ่งขึ้น 2.6% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์ยอดขายทั้งปี
หุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของยูโรโซน พุ่ง 3.0% หลังเปิดเผยรายได้สุทธิสูงเกินคาดในไตรมาส 2/2566
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี พุ่ง 4.4% หลังจากหุ้นอิกซ์ตรอน ซึ่งเป็นผู้ผลิตระบบชิป พุ่งขึ้น 13.2% หลังปรับเพิ่มแนวโน้มผลประกอบการทั้งปี ขณะที่หุ้นเอสทีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ พุ่ง 8.9% หลังคาดการณ์ยอดขายไตรมาส 3 ที่สดใส