ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (31 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งความเชื่อมั่นที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป หรือซอฟต์แลนดิ้ง (Soft Landing) ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,559.53 จุด เพิ่มขึ้น 100.24 จุด หรือ +0.28%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,588.96 จุด เพิ่มขึ้น 6.73 จุด หรือ +0.15% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,346.02 จุด เพิ่มขึ้น 29.37 จุด หรือ +0.21%
ตลอดเดือนก.ค. ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 3.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายเดือนติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 ขณะที่ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 4.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายเดือนติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 เช่นกัน ส่วนดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 3.4% และในระหว่างเดือนก.ค.นั้น ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวกติดต่อกัน 13 วันทำการ ซึ่งทำสถิติช่วงขาขึ้นที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2530
สำหรับภาวะการซื้อขายเมื่อคืนนี้ ตลาดได้รับปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน โดยข้อมูลจาก Refinitiv ระบุว่า 78% ของบริษัทในดัชนี S&P 500 ที่ได้เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 แล้ว มีกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีมุมมองบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ โดยล่าสุด ซิตี้กรุ๊ปคาดการณ์ว่าสหรัฐจะไม่เผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยจะชะลอตัวในลักษณะซอฟต์แลนดิ้ง ขณะเดียวกันซิตี้กรุ๊ปได้ปรับเพิ่มเป้าหมายดัชนี S&P500 สู่ระดับ 4,600 จุดในช่วงสิ้นปีนี้ และสู่ระดับ 5,000 จุดในกลางปี 2567
หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 2% หลังจากราคาน้ำมัน WTI ทะยานขึ้นเหนือระดับ 81 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 2.96% หุ้นเชฟรอน ดีดขึ้น 3.02% หุ้นออคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม เพิ่มขึ้น 1.72%
หุ้นโซฟี เทคโนโลยีส์ (SoFi Technologies) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการเงิน และหุ้นออน เซมิคอนดักเตอร์ (ON Semiconductor) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิป พุ่งขึ้น 19.9% และ 2.5% ตามลำดับ ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดของทั้งสองบริษัท
หุ้นอะโดบี (Adobe) พุ่งขึ้น 3.3% หลังจากนักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์แนะนำ "เพิ่มน้ำหนักการลงทุน" (overweight) ในหุ้นอะโดบี
นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานหลายรายการของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนมิ.ย., วันพุธจะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ค.จาก ADP และวันพฤหัสบดีจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ส่วนในวันศุกร์ สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.6% ในเดือนก.ค.