ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันอังคาร (1 ส.ค.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากจีนเปิดเผยข้อมูลกิจกรรมการผลิตหดตัวลงในเดือนก.ค. ซึ่งบดบังปัจจัยบวกจากการเปิดเผยผลประกอบการที่สดใสของเอชเอสบีซีและเวียร์ กรุ๊ป
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,666.27 จุด ลดลง 33.14 จุด หรือ -0.43%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่อุตสาหกรรม ปรับตัวลง 1.1% เนื่องจากราคาโลหะพื้นฐานส่วนใหญ่ปรับตัวลงจากความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์จากจีนซึ่งเป็นผู้ใช้โลหะรายใหญ่ หลังจากจีนเปิดเผยข้อมูลกิจกรรมการผลิตหดตัวลงในเดือนก.ค.
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงด้วย โดยหุ้นบีพีและหุ้นเชลล์ ร่วงลงตามราคาน้ำมันซึ่งเป็นผลจากแรงขายทำกำไร หลังทะยานขึ้นอย่างมากเดือนก.ค.
หุ้นพรูเดนเชียลซึ่งพึ่งพารายได้จากจีน ร่วงลง 2.1%
ตลาดถูกกดดันหลังผลสำรวจของภาคเอกชนบ่งชี้ว่า กิจกรรมการผลิตในพื้นที่ต่าง ๆ ของโลก ยังคงหดตัวในเดือนก.ค.
อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ผลประกอบการที่ดีเกินคาดของหุ้นรายตัวได้ช่วยหนุนตลาด โดยหุ้นเอชเอสบีซี ปรับตัวขึ้น 1.3% สวนทางตลาด และแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี หลังปรับเพิ่มเป้าหมายผลประกอบการ
หุ้นเวียร์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทด้านวิศวกรรม พุ่งขึ้น 2.2% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้และผลกำไรทั้งปี
หุ้นกลุ่มบริษัทเครื่องดื่ม บวก 1.7% โดยหุ้นบริษัทดิอาจีโอซึ่งเป็นบริษัทผลิตสุรารายใหญ่ที่สุดของโลก บวก 0.3% หลังคาดการณ์ยอดขายทั้งปีสูงกว่าคาด
ตลาดรอดูผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25%