ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุด หลังฟิทช์ เรทติ้งส์ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ
ณ เวลา 20.45 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 35,516.35 จุด ลบ 114.33 จุด หรือ 0.32%
ทั้งนี้ ฟิทช์ เรทติ้งส์ปรับลดอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ (Long-Term Foreign-Currency Issuer Default Rating) ของสหรัฐลงสู่ระดับ AA+ จากระดับ AAA โดยระบุถึงแนวโน้มสถานะการคลังของสหรัฐที่จะถดถอยลงในช่วง 3 ปีข้างหน้า และภาระหนี้สินที่พุ่งขึ้น
นักลงทุนยังคงจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาด
ข้อมูลจาก FactSet ระบุว่า 82% ของบริษัทในดัชนี S&P 500 ที่ได้เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 แล้ว มีกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้
ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 324,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 175,000 ตำแหน่ง
การจ้างงานของภาคเอกชนได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้น 201,000 ตำแหน่งของการจ้างงานในภาคโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ ADP ปรับตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนในเดือนมิ.ย. เป็นเพิ่มขึ้น 455,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้น 497,000 ตำแหน่ง
ทั้งนี้ ภาคบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 303,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ขณะที่ภาคการผลิตมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 21,000 ตำแหน่ง
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. จากระดับ 209,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. นอกจากนี้ คาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.6% ในเดือนก.ค.