ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (3 ส.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนตลอดวัน โดยตลาดถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และการที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,215.89 จุด ลดลง 66.63 จุด หรือ -0.19%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,501.89 จุด ลดลง 11.50 จุด หรือ -0.25% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,959.72 จุด ลดลง 13.73 จุด หรือ -0.10%
ตลาดยังคงได้รับปัจจัยลบจากการที่ฟิทช์ประกาศลดอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ (Long-Term Foreign-Currency Issuer Default Rating) ของสหรัฐลงสู่ระดับ AA+ จากระดับ AAA โดยระบุว่าสถานะการคลังของสหรัฐมีแนวโน้มที่จะถดถอยลงในช่วง 3 ปีข้างหน้า และภาระหนี้สินโดยรวมของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น
ตลาดยังถูกกดดันหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 4.189% เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนหรือนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2565 โดยการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีซึ่งเป็นพันธบัตรที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลกรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองของสหรัฐด้วยนั้น จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินสำหรับการใช้จ่ายลดน้อยลง และจะทำให้บริษัทต่าง ๆ เผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ซึ่งท้ายที่สุดจะทำให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
ทั้งนี้ ความกังวลดังกล่าวส่งผลให้ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างผันผวน โดยดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.
หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ร่วงลง 2.3% และ 1.4% โดยอุตสาหกรรมสาธารณูปโภคและอสังหาริมทรัพย์เป็นภาคส่วนที่มีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย
หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางปรับตัวลง หลังจากสายการบินสปิริต แอร์ไลน์ และบริษัทเอ็กซ์พีเดีย (Expedia) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มด้านการเดินทางออนไลน์ เปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอลงในไตรมาส 2 ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าความต้องการด้านการเดินทางภายในประเทศของสหรัฐจะชะลอตัวลง โดยหุ้นอ็กซ์พีเดีย ทรุดตัวลง 16.38% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ร่วงลง 1.36% หุ้นสปิริต แอร์ไลน์ ดิ่งลง 7.14% หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูส ลดลง 0.46%
หุ้นควอลคอมม์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 8.12% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ที่ระดับ 8.44 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย. ซึ่งเป็นไตรมาส 3 ประจำปีงบการเงินของบริษัท โดยตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.50 พันล้านดอลลาร์
หุ้นโมเดอร์นา ปรับตัวลง 0.24% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 2 ที่ระดับ 344 ล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าระดับ 4.75 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยได้รับผลกระทบจากยอดขายวัคซีนโควิด-19 ที่ทรุดฮวบลงถึง 94%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 6,000 ราย สู่ระดับ 227,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 52.7 ในเดือนก.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 53.0 จากระดับ 53.9 ในเดือนมิ.ย.
นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทแอปเปิ้ล อิงค์ และบริษัทอะเมซอน ซึ่งจะมีการเปิดเผยหลังตลาดปิดทำการ รวมทั้งจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.6% ในเดือนก.ค.