ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อยในวันศุกร์ (4 ส.ค.) โดยฟื้นตัวหลังติดลบ 3 วันติดต่อกัน ขณะที่การเปิดเผยผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนและข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งได้ช่วยบดบังความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 459.28 จุด เพิ่มขึ้น 1.35 จุด หรือ +0.29% แต่ปรับตัวลง 2.4% ในรอบสัปดาห์นี้หลังปรับตัวขึ้น 3 สัปดาห์ติดต่อกัน
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,315.07 จุด เพิ่มขึ้น 54.54 จุด หรือ +0.75%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,951.86 จุด เพิ่มขึ้น 58.48 จุด หรือ +0.37% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,564.37 จุด เพิ่มขึ้น 35.21 จุด หรือ +0.47%
ตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัวขึ้นในวันศุกร์ หลังร่วงลงราว 3% ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา โดยตลาดได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงตึงตัว เนื่องจากค่าจ้างเพิ่มขึ้นอย่างมาก และอัตราการว่างงานลดลง แม้การจ้างงานเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนก.ค.ก็ตาม
บรรดานักวิเคราะห์กล่าวว่า ข้อมูลการจ้างงานดังกล่าวได้สนับสนุนความหวังที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจยุติการคุมเข้มนโยบายการเงินเร็ว ๆ นี้ ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปหรือซอฟต์แลนดิ้ง (soft landing)
ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐ หลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงาน และการคาดการณ์ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทอะเมซอน.คอม อิงค์ได้บดบังการเปิดเผยแนวโน้มยอดขายที่ซบเซาของบริษัทแอปเปิ้ล
การเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปนั้นออกมาคละเคล้ากัน โดยหุ้นธนาคารเครดิต อากริโคล พุ่ง 6.1% หลังเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง แต่หุ้นดับบลิวพีพี (WPP) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทโฆษณารายใหญ่ที่สุดของโลก ร่วง 3.4% หลังปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทั้งปี
หุ้นคอมเมิร์ซแบงก์ ร่วง 2.6% หลังปรับเพิ่มแนวโน้มต้นทุน และปรับลดคาดการณ์รายได้จากค่าคอมมิชชัน