ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพุธ (9 ส.ค.) แตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน และกลุ่มธนาคารของอิตาลีฟื้นตัวขึ้นหลังจากร่วงลงอย่างหนักในวันอังคาร เนื่องจากรัฐบาลอิตาลีได้ผ่อนปรนแผนการเก็บภาษีลาภลอย windfall tax ของกลุ่มธนาคาร
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 460.58 จุด เพิ่มขึ้น 1.98 จุด หรือ +0.43%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,322.04 จุด เพิ่มขึ้น 52.57 จุด หรือ +0.72%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,852.58 จุด เพิ่มขึ้น 77.65 จุด หรือ +0.49% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,587.30 จุด เพิ่มขึ้น 59.88 จุด หรือ +0.80%
หุ้นกลุ่มธนาคารของยูโรโซนปรับตัวขึ้น 1.4% ในวันพุธ หลังร่วง 3.5% ในวันอังคาร เนื่องจากรัฐบาลอิตาลีประกาศในวันอังคารเกี่ยวกับเพดานภาษีลาภลอยที่จะเก็บจากธนาคารพาณิชย์ โดยระบุว่าการเก็บภาษีดังกล่าวที่ระดับ 40% นั้น จะไม่มากกว่า 0.1% ของสินทรัพย์ทั้งหมดของธนาคาร
หุ้นกลุ่มธนาคารของอิตาลี อาทิ ไฟน์โคแบงก์, บองโค บีพีเอ็ม และยูนิเครดิต ปรับตัวขึ้น 4.3-7.1% และดัชนี FTSE MIB หุ้นกลุ่มธนาคาร ปรับตัวขึ้น 0.4%
หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซ ปรับตัวขึ้น 2.3% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 2 เดือน เนื่องจากราคาน้ำมันแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.
ส่วนหุ้นรายตัวนั้น หุ้นเดลิเวอรี่ ฮีโร่ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 4.7% หลังปรับเพิ่มแนวโน้มรายได้ทั้งปี
การเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า จีนเข้าสู่ภาวะเงินฝืดนั้นได้ช่วยกระตุ้นความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงด้วย
บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อพิจารณาว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้หรือไม่