ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ วิตกธ.กลางอังกฤษ-สวีเดนอาจขึ้นดอกเบี้ยอีก

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 16, 2023 06:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันอังคาร (15 ส.ค.) นำโดยตลาดหุ้นอังกฤษและสวีเดน หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของสองประเทศนี้ทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก ขณะที่หุ้นที่พึ่งพารายได้จากจีนนั้นร่วงลง หลังมาตรการสนับสนุนด้านนโยบายของจีนไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 455.57 จุด ลดลง 4.29 จุด หรือ -0.93%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,267.70 จุด ลดลง 81.14 จุด หรือ -1.10%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,767.28 จุด ลดลง 136.97 จุด หรือ -0.86% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,389.64 จุด ลดลง 117.51 จุด หรือ -1.57%

ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดของวันในรอบกว่า 1 เดือน ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นลอนดอนและสตอกโฮล์ม ร่วงลงกว่า 1%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษพุ่งขึ้น หลังจากข้อมูลบ่งชี้ว่า อัตราการขยายตัวของค่าจ้างพื้นฐานในประเทศแตะระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ ซึ่งสนับสนุนโอกาสที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก

อัตราเงินเฟ้อของสวีเดนยังคงทรงตัวที่ 9.3% ในเดือนก.ค. โดยยังคงอยู่ในระดับสูงเกินไป ซึ่งธนาคารกลางอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมเดือนก.ย.

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่พึ่งพาตลาดจีน ร่วงลง 10.5% แตะระดับต่ำสุดของวันซึ่งต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี เนื่องจากราคาโลหะพื้นฐานปรับตัวลง หลังการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ยอดค้าปลีก, การผลิตภาคอุตสาหกรรม และการลงทุนของจีนขยายตัวในอัตราที่ต่ำกว่าคาด

แม้ว่าธนาคารกลางจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง แต่นักวิเคราะห์กล่าวว่า จีนจำเป็นต้องดำเนินมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังยุคโควิด

หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราที่พึ่งพารายได้จากจีน อาทิ แอลวีเอ็มเอช, แอร์เมส และเคอริง ปรับตัวลงราว 1% และดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าหรูหรา ร่วงลง 1.2%

หุ้นธนาคารเอชเอสบีซีซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของยุโรปที่ทำธุรกิจในจีน ร่วงลง 3.4% และถ่วงดัชนี STOXX 600 ลงมากที่สุด

บรรยากาศการซื้อขายยังได้รับผลกระทบจากการเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งทำให้เกิดความวิตกว่า อัตราดอกเบี้ยอาจจะยังคงอยู่ที่ระดับสูงต่อไป ซึ่งส่งผลกดดันตลาดหุ้นนิวยอร์กด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ