ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบในวันนี้เป็นวันที่สามติดต่อกัน แตะจุดต่ำสุดในรอบ 2 เดือนครึ่ง ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนและความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องในสหรัฐ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 31,450.76 จุด ลดลง 175.24 จุด หรือ -0.55%
-- ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดบวกในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าจีนซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของออสเตรเลียจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดที่ 7,148.10 จุด เพิ่มขึ้น 2.10 จุด หรือ +0.03% และดัชนี All Ordinaries ปิดที่ 7,366.00 จุด เพิ่มขึ้น 1.60 จุด หรือ +0.02%
-- ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 6 ในวันนี้ (18 ส.ค.) แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งความเสี่ยงในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนและผลกระทบเศรษฐกิจในวงกว้าง ส่วนเงินวอนของเกาหลีใต้แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ปิดวันนี้ที่ 2,504.50 จุด ลดลง 15.35 จุด หรือ -0.61% ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. โดยมีปริมาณการซื้อขายปานกลางที่ประมาณ 549.45 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 10.49 ล้านล้านวอน (7.84 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และมีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในสัดส่วน 520 ต่อ 358 ตัว
-- ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดร่วงลงในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวการยื่นล้มละลายของบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีน
ทั้งนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,131.95 จุด ลดลง 31.79 จุด หรือ -1.00%
-- ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดร่วงลงในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับวิกฤตในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน หลังจากบริษัท ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีน ได้ยื่นคำร้องขอพิทักษ์ทรัพย์ตามกฎหมายล้มละลาย
ดัชนีฮั่งเส็งปิดที่ 17,950.85 จุด ร่วงลง 375.78 จุด หรือ -2.05%